Table of Content
Facebook Ads คืออะไรและทำงานยังไง
Facebook Ads คืออะไร?
Facebook คือหนึ่งในแพลตฟอร์ม Social Media ที่ใหญ่และเป็นที่นิยมอันดับต้น ๆ ของโลก โดยมีจำนวนผู้ใช้มากถึง 3 พันล้านรายในแต่ละเดือน ซึ่งก็คงจะเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ใช้เหล่านั้นคือกลุ่มเป้าหมายที่นักการตลาดต่างก็อยากที่จะเข้าถึง! แม้ว่าการใช้งาน Facebook จะไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่ Facebook เองก็ทำรายได้จากการขายโฆษณาด้วยข้อมูลของผู้ใช้ที่พวกเขาสั่งสมมา
การโฆษณาบน Facebook ควรเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ Social Media สำหรับทุก ๆ แบรนด์ เพราะการยิงโฆษณาบน Facebook ให้คุณสามารถที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มได้โดยที่จะเกิดค่าใช้จ่ายเฉพาะในกรณีที่มีการเข้าถึงเกิดขึ้นเท่านั้น บทความนี้จะพาคุณไปดูแง่มุมต่าง ๆ ของ Facebook Ads เพื่อให้คุณเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
Facebook Ads ทำงานยังไง?
Facebook Ads ทำงานโดยการใช้ระบบประมูลการแสดงผลโฆษณา เมื่อคุณสร้างโฆษณาและกำหนดกลุ่มเป้าหมายแล้ว คุณจะต้องตั้งงบประมาณและราคาที่คุณต้องการจะประมูลสำหรับการคลิก 1 ครั้งหรือสำหรับทุก 1,000 อิมเพรสชัน (จำนวนครั้งที่โฆษณาถูกแสดงผล) เมื่อ Facebook ค้นพบผู้ใช้ที่ตรงกับการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายของคุณ Facebook จะแสดงโฆษณาที่ถูกจัดอันดับว่ามีคุณค่าสูงสุดซึ่งจะกลายเป็นโฆษณาตัวที่ชนะการประมูล คุณค่าดังกล่าวประกอบไปด้วยราคาประมูล ความเป็นไปได้ที่ผู้ใช้จะมีส่วนร่วม และคุณภาพของชิ้นงานโฆษณา และถ้าโฆษณาตัวที่ชนะนั้นเป็นโฆษณาของคุณ Facebook ก็จะคิดเงินคุณตามลำดับ
ประโยชน์ของ Facebook Ads
ประโยชน์หลัก ๆ ของ Facebook Ads อยู่ที่ความยืดหยุ่นในการกำหนดค่าต่าง ๆ
- Focused Targeting (การกำหนดเป้าหมายแบบเจาะจง) : ถ้าหากว่าคุณเคยได้ยินคำนี้ คุณจะได้ยินมันอีกเรื่อย ๆ Facebook Ads ให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างหลากหลายและกว้างขวาง (ซึ่งจะมีคำอธิบายเพิ่มเติมด้านล่าง) เพื่อให้คุณสามารถที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอุดมคติได้
- Custom Audiences (กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง) : Facebook ให้คุณสามารถที่จะยิงโฆษณาถึงกลุ่มเป้าหมายที่คุณสร้างขึ้นจากฐานข้อมูลที่ผู้ลงโฆษณามีสิทธิ์อย่างถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น การยิงโฆษณาไปหากลุ่มลูกค้าเดิมที่ยังไม่ได้มีการซื้อสินค้าในช่วงไม่นานมานี้ หรือกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะที่อาจมีความสนใจในผลิตภัณฑ์ออกใหม่
- Lookalike Audiences (กลุ่มเป้าหมายที่มีความคล้ายคลึงกัน) : เมื่อคุณสร้าง Custom Audience จากฐานข้อมูลที่คุณมีแล้ว คุณยังสามารถที่จะใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นพื้นฐานให้ Facebook เสาะหา Lookalike Audiences ได้อีกด้วย ซึ่งก็มีแนวโน้มสูงว่ากลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้จะกลายมาเป็นลูกค้าของแบรนด์ด้วยเช่นกัน
- Detailed Analytics (การวิเคราะห์โดยละเอียด) : Facebook มีตัวชี้วัดทางสถิติจำนวนมากที่ให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับการทำโฆษณาบน Facebook คุณสามารถที่จะรู้ได้ว่าโฆษณานั้นก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมหรือไม่ และการมีส่วนร่วมนั้นได้เปลี่ยนเป็นยอดขายหรือไม่ และที่สำคัญกว่านั้นคือคุณสามารถที่จะปรับเปลี่ยนการตั้งค่าการยิงโฆษณาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้อีกดด้วย
- Wider Reach (ขยายการเข้าถึง) : ในอดีตเพียงแค่คุณมีแอ็กเคานต์ Facebook และมีการเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอก็เพียงพอต่อการขยายการเข้าถึงแล้ว ในขณะที่ปัจจุบันการที่จะได้มาซึ่งพื้นที่บนหน้าฟีดของผู้ใช้นั้นมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นอย่างทวีคูณ ดังนั้นการซื้อโฆษณาจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะเข้าถึงผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความท้าทายของการทำโฆษณาบน Facebook
คงเป็นเรื่องโกหก หากเราบอกว่า Facebook Ads นั้นไม่มีข้อเสียอะไรเลย:
- Data Collection (การเก็บข้อมูล) : โดยเฉพาะในกรณีของ iOS 14 เป็นต้นไป แม้ว่าระบบปฏิบัติการดังกล่าวจะไม่ใช่ระบบปฏิบัติการที่ถูกใช้งานเป็นหลักทั่วทั้งโลก แต่ก็ถือว่ามีสัดส่วนใหญ่มากทีเดียว การที่ระบบ iOS มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยกำหนดให้แอปจะต้องได้รับการยินยอมจากตัวผู้ใช้เท่านั้นจึงจะสามารถเก็บและแชร์ข้อมูลผู้ใช้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความแม่นยำในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ Facebook ได้
- Rising Fees : จริงอยู่ที่การลงโฆษณาบน Facebook นั้นมีต้นทุนที่ต่ำกว่าช่องทางอื่น ๆ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับช่องทางดั้งเดิม แต่ต้นทุนของการทำโฆษณาบน Facebook นั้นก็ไม่ได้ต่ำอย่างที่เคยอีกต่อไป เนื่องจากจำนวนธุรกิจที่หันมาใช้ Facebook Ads นั้นมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น และเมื่อต้นทุนที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น คุณจึงจำเป็นที่จะต้องแน่ใจได้ว่าคุณจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้องได้อย่างรวดเร็ว และด้วยเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ หลายธุรกิจจึงหันไปพึ่งพา Digital Media Agencies อย่าง IBEX Media Group เพื่อช่วยในการบริหารจัดการ Facebook Ads ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวเลือกในการระบุกลุ่มเป้าหมายสำหรับการยิงโฆษณามีอะไรบ้าง?
อย่างที่กล่าวไปว่าหนึ่งในประโยชน์ของ Facebook Ads ก็คือความสามารถในการกำหนดเป้าหมายได้อย่างเจาะจง การกำหนดเป้าหมายอย่างเจาะจงหมายเป็นยังไง? คุณจะสามารถกำหนดได้เจาะจงแค่ไหน? อืม…ก็ถือว่าเจาะจงมากเลยล่ะ คุณสามารถที่จะกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้จากขอบเขตตัวเลือกเพื่อกำหนดโปรไฟล์ของกลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภคในอุดมคติได้ ซึ่งตัวเลือกหลัก ๆ ประกอบไปด้วย :
- เพศ : คุณต้องการเข้าถึงเพศหญิง เพศชาย หรือทั้งสองเพศ?
- สถานะ : คุณสามารถที่จะเลือกสถานะได้มากกว่าโสดหรือแต่งงาน
- อายุ : คุณสามารถที่จะกำหนดช่วงอายุที่ต้องการได้
- การศึกษา : นอกจากการกำหนดระดับของการศึกษาแล้ว คุณยังสามารถที่จะกำหนดสาขาหรือคณะที่กลุ่มเป้าหมายศึกษาได้อีกด้วย
- งาน : คุณสามารถที่จะกำหนดผู้ว่าจ้าง ตำแหน่งงาน หรืออุตสาหกรรมที่ต้องการได้ หรือเลือกกลุ่มที่ต้องการจากแต่ละหมวดหมู่ก็ได้
- ความสนใจและงานอดิเรก : ขยายการเข้าถึงเพิ่มขึ้นอีกด้วยการกำหนดความสนใจที่ Facebook เก็บข้อมูลจากพฤติกรรมการกดไลก์รวมถึงพฤติกรรมอื่น ๆ
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดการตั้งค่าข้อมูล ความสนใจ รวมถึงพฤติกรรมอื่น ๆ อีกที่คุณสามารถที่จะทำได้ ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มที่เพิ่งไปท่องเที่ยวมา (หรือความถี่ในการไปท่องเที่ยว) อุปกรณ์สื่อสารที่ใช้งาน อิเวนต์สำคัญในชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมาย
รูปแบบของ Facebook Ads
เมื่อคุณกำหนดกลยุทธ์ในการทำโฆษณาบน Facebook สิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่คุณจะต้องตระหนักคือรูปแบบต่าง ๆ ของ Facebook Ads เพื่อที่คุณจะสามารถตัดสินใจได้ว่า Ads รูปแบบใดที่เหมาะสมกับแคมเปญของคุณมากที่สุด รูปแบบโฆษณา Facebook มีหลัก ๆ ดังนี้ :
- Image Ads (รูปภาพ) เป็นรูปแบบโฆษณาที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ในกรณีที่คุณยังไม่พร้อมที่จะทำ Photoshoot คุณสามารถที่จะใช้โพสต์ต่าง ๆ ที่มีอยู่เป็น Image Ads แทนก่อนก็ได้เช่นกัน
- Carousel Ads (ภาพสไลด์) ให้คุณสามารถแสดงผลิตภัณฑ์หรือการบริการด้วยรูปภาพมากถึง 10 รูปภาพในคราเดียว ใช้ Carousel Ads หากคุณต้องการที่จะจัดแสดง 1 หรือ 10 ผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้คุณยังเพิ่มปุ่ม Shop Now ในแต่ละรูปภาพเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ทันทีได้อีกด้วย
- Poll Ads (โพลผลสำรวจ) ให้ผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของคุณได้ในขณะที่คุณได้รับข้อมูลการตลาดที่เป็นประโยชน์ แต่ในขณะนี้ยังสามารถใช้งานได้แค่บนอุปกรณ์มือถือเท่านั้น
- Video Ads (วีดีโอ) ให้คุณสามารถแสดงความคิดสร้างสรรค์ได้เพิ่มเติมด้วยภาพเคลื่อนไหว คุณอาจนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเป็นข้อมูลแก่ผู้ใช้ หรือนำเสนอเนื้อหาที่ให้ความบันเทิงเพื่อเป็นการเสริมสร้างแบรนด์ของคุณก็ได้
- Slideshow Ads (สไลด์โชว์) คือ Video Ads รูปแบบหนึ่งที่ใช้รูปภาพ ข้อความ หรือคลิปสั้น ๆ ในการนำเสนอ เนื่องจากว่า Slideshow Ads ใช้ดาต้าน้อยกว่า Video Ads มันจึงโหลดเร็วกว่า ซึ่งอาจเป็นประโยชน์หากคุณต้องการเข้าถึงผู้ใช้ที่มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วไม่มากนัก
นอกจากนี้ยังมี Ads รูปแบบอื่น ๆ อีกเช่น Collection Ads, Instant Experience Ads, Lead Ads, Messenger Ads, Stories Ads, และ Augmented Reality Ads หากว่าคุณสนใจประโยชน์ต่าง ๆ ที่คุณจะได้รับจากการใช้งาน Ads เหล่านี้ คุณสามารถที่จะพูดคุยและขอคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้าน Social Media จาก IBEX Media Group ได้
การโฆษณาบน Facebook มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
หนึ่งในข้อดีของ Facebook Ads คือคุณไม่จำเป็นที่จะต้องมีเงินก้อนใหญ่เพื่อลงโฆษณา ต้นทุนต่ำสุดนั้นเริ่มต้นเพียงแค่ 50 บาทต่อวันเท่านั้น และต้นทุนเฉลี่ยต่าง ๆ นั้นประกอบไปด้วย :
- ต้นทุนต่อคลิก (Cost per click) = 32 บาท
- ต้นทุนต่อ 1,000 อิมเพรสชัน (Cost per 1,000 Impressions) = 243 บาท
- ต้นทุนต่อไลก์ (Cost per like) = 36 บาท
- ต้นทุนต่อดาวน์โหลด (Cost per download) = 185 บาท
แต่พึงระลึกไว้ว่าต้นทุนเหล่านี้เป็นเพียงแค่ต้นทุนเฉลี่ยเท่านั้น ค่าใช้จ่ายของคุณอาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ขึ้นอยู่กับการวางแผนและการดำเนินการของคุณ
จะเริ่มต้นทำโฆษณาบน Facebook ยังไง?
คุณควรที่จะเริ่มต้นทำโฆษณาบน Facebook แบบเดียวกกับการเริ่มต้นแคมเปญการตลาดอื่น ๆ กล่าวคือ เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้า กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ข้อความ และรูปแบบของการสื่อสาร ถึงอย่างไรก็ตาม การที่จะทำ Facebook Ads ให้ได้ประโยชน์สูงสุดได้นั้น คุณจะต้องรู้วิธีการใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อกำหนดเป้าหมายและติดตามผลแคมเปญของคุณ หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณควรที่จะปรึกษา Facebook Agency (รับทำ Facebook Ads) ที่สามารถไว้วางใจได้อย่าง IBEX Digital Agency เราคือ Digital Marketing Agency ที่มีบริการอย่างครบวงจร และเรายินดีที่จะช่วยให้แบรนด์และธุรกิจของคุณเติบโตผ่านการทำ Social Media Marketing (Social Media Agency), SEO (รับทำ SEO), และ Facebook Ads & Video Production.
Nikolai Londal
