Table of Content
- SEO
การใส่ Heading Tag สำคัญอย่างไรในการทำ SEO?
คนทำคอนเทนต์เคยเป็นกันบ้างไหม ตอนเขียนคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาสาระครบถ้วน แต่บทความดังกล่าวกลับไม่ติดอันดับการค้นหาบนกูเกิ้ลเลย ซึ่งบางทีปัญหานี้อาจจะมาจากการที่ใส่ Heading Tag ไม่ถูกต้อง และอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เนื้อหาบนเว็บไซต์ไม่ติดอันดับ จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มาหาคำตอบจาก IBEX ได้ในบทความนี้
Heading Tag คืออะไร
Heading Tag คือการแสดงผลใน HTML code ที่ใช้สำหรับการระบุว่าเนื้อหาสาระสำคัญของเว็บไซต์ว่าเนื้อหาส่วนใดคือเนื้อหาที่สำคัญ Heading Tag จะช่วยทำให้ผู้อ่านและ Search Engine เข้าใจได้ว่าหัวข้อใดเป็นหัวข้อหลัก หัวข้อรอง หรือหัวข้อย่อยในบทความแต่ละบทความ
Heading Tag มีความจำเป็นในการใช้บนเนื้อหาบนเว็บไซต์อย่างมาก เพราะช่วยทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจเนื้อหาได้อย่างง่ายดายมากขึ้น มีตั้งแต่ H1 ถึง H6 และเรียงจากลำดับความสำคัญมากไปถึงน้อย
เมื่อระบบ Search Engine เก็บข้อมูลในหน้าเว็บเพจใดแล้วพบว่ามี H1 มากกว่า 1 ตำแหน่ง จะส่งผลให้ความสำคัญของ H1 ที่ควรจะเป็นมีความสำคัญลดลง ดังนั้นการเลือกใช้ H1 ควรเลือกใช้สำหรับชื่อสาระสำคัญของหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากหน้าเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นหน้าเว็บไซต์สำหรับสินค้าและบริการ ผู้เขียนบทความควรเลือกใส่ชื่อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ให้เป็น H1 หรือถ้าหากเป็นบทความให้ความรู้ ผู้เขียนควรเลือก H1 ที่มีชื่อที่ดึงดูดใจผู้อ่านมากที่สุด ดังนั้นจะเห็นได้ว่า H1 เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่จะทำให้ผู้อ่านตัดสินใจว่าจะเลือกอ่านบทความต่อหรือไม่
ควรเลือกใช้ Heading อย่างเหมาะสม ไม่ควรใส่มากเกินไปเกินความจำเป็น และควรเลือกใช้ Heading Tag ให้เหมาะสมกับเนื้อหาของบทความ เพื่อให้ทั้งผู้อ่านและ Search Engine เข้าใจเนื้อหามากขึ้น
ข้อดีของการเลือกใส่ Heading Tag ให้มีความเหมาะสม
การใส่ Heading Tag ในปัจจุบันมีความสำคัญอย่างมากในการทำ SEO เนื่องจากเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากที่จะช่วยทำให้ Search Engine เข้าใจได้ว่าเนื้อหาแต่ละแบบเป็นอย่างไร โดยมีข้อดีของการใส่ Heading หลัก ๆ ที่เราได้สรุปไว้แล้ว ตามนี้
- Search Engine เข้าใจความสำคัญของเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์มากขึ้น
- ผู้อ่านเข้าใจได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นว่าเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์เกี่ยวข้องกับอะไร
- เนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์เป็นระเบียบมากขึ้น
- มีโอกาสติดอันดับการค้นหามากกว่าการไม่ใส่ Heading Tag
ตัวอย่างการใส่ Heading Tag
ตัวอย่างการใส่ Heading Tag ให้มีความเหมาะสมบนหน้าเว็บไซต์ ส่วนใหญ่มักมักนิยมใช้ตั้งแต่ H1 – H3 ตัวอย่างเช่น เนื้อหาบนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ “Keyword (คีย์เวิร์ด) ในการทำ SEO” ตัวอย่างการใส่ Heading Tag มีดังนี้
- H1: Keyword (คีย์เวิร์ด) หัวใจสำคัญของการทำ SEO คืออะไร
- H2: คีย์เวิร์ด SEO (SEO Keyword) คืออะไร
- H2: ความสำคัญของคีย์เวิร์ดใน SEO
- H2: วิธีหาคีย์เวิร์ดที่คนกำลังสนใจ
- H2: เครื่องมือสำหรับการค้นหาคีย์เวิร์ด
- H3: Google Trends
- H3: Google Keywords Planner
- H3: Ubersuggest
- H3: Keyword Surfer
การเขียนบทความ SEO ส่วนใหญ่ในทุก ๆ Heading มักมีการใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการติดอันดับ Ranking เพื่อให้ Google สามารถเข้าใจได้มากขึ้นว่าเนื้อหาของเว็บไซต์มีเนื้อหาสาระสำคัญเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดใด
การเรียงลำดับ Heading Tag อาศัยความเข้าใจในเนื้อหาที่จะสื่อของผู้เขียนบทความหรือเขียนเนื้อหาลงบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ทั้งมนุษย์และระบบ Search Engine เข้าใจเนื้อหาที่ผู้ดูแลเว็บไซต์หรือผู้เขียนเนื้อหาลงบนเว็บไซต์ต้องการจะสื่อ และส่งผลดีต่อภาพรวมในการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพโดยรวมให้กับเว็บไซต์